วันนี้ที่ 26 เมษายน 2564
ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเปลี่ยนแปลงโครงการเราชนะ โดยขยายกลุ่มเป้าหมายจาก 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นกลุ่มเป้าหมายประมาณ 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 213,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติวงเงินสำหรับ 31.1 ล้านคน แต่เมื่อลงทะเบียนจริงมีผู้มีคุณสมบัติรับสิทธิสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ คาดว่าจะมีผู้รับสิทธิได้รวม 33.5 ล้านคน ทางกระทรวงการคลังจึงต้องขออนุมัติงบฯ เพิ่มเติมให้ครอบคลุมกับจำนวนที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาใช้จ่ายจากเดิมไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เป็นไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อบรรเทาผลกระทบ กรณีประชาชนไม่สามารถเดินทางออกไปใช้จ่ายในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่และคณะรัฐมนตรีได้รับทราบแนวทางจัดการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลการทบทวนสิทธิ์ที่อาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และการกำหนดกรอบระยะเวลารับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้รับแจ้งจากประชาชนภายในวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 กรณีกระทรวงการคลัง ได้รับเบาะแสเรื่องการทุจริตของประชาชนหรือผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ เช่น แลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด การขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรมฯ ซึ่ง กระทรวงการคลังได้ประสานขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวติดตามและตรวจสอบ หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้า และดำเนินการตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสามารถแจ้งเบาะแสรวมถึงส่งหลักฐานการกระทำผิดส่งไปรษณีย์มาที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail): wewin@fpo.go.th
เครดิตจาก……….สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร
เล่าข่าวชาวมุกดาหาร รายงาน……………..
496 total views, 2 views today
Facebook Comments