โฆษณา

เศรษฐกิจ

มาตรการยกเว้นภาษีส่งเสริมการอีเวนต์และอบรมสัมมนาในประเทศ

วันนี้ที่ 16 กรกฎาคม 2565

ครม. เห็นชอบมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องทั้งระบบ รวมทั้งสนับสนุนการใช้จ่ายและส่งเสริมการจ้างงาน โดยประกอบด้วย 2 มาตรการ ดังนี้

1. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถหักรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา ที่ใช้จ่ายในช่วงวันที่15 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

1.1. 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

1.2. 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง สำหรับการอบรมสัมมนาทจัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามข้อ 1.1.

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดนิทรรศการ งานแสดงสินค้าภายในประเทศ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการสามารถหักรายจ่ายค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการในการเข้าร่วมงานออกร้าน งานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าภายในประเทศ ที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ได้ 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายจริง โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

2.1 งานออกร้าน งานนิทรรศการ หรืองานแสดงสินค้าภายในประเทศ ต้องเริ่มจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 (เริ่มจัดภายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ช่วงเวลาจัดงานสามารถเสร็จสิ้นภายหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ได้)

2.2 ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้จัดงานว่าได้เข้าร่วมจัดงานจริง

2.3 ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่หรือค่าบริการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

มาตรการดังกล่าวนอกจากเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดอบรมสัมมนา หรือจัดนิทรรศการโดยตรงแล้ว ยังมีผลเกี่ยวเนื่องถึงแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านั้น รวมถึงต้นทางของวัตถุดิบ สินค้าและบริการในพื้นที่ ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว หลังจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และไม่สามารถจัดกิจกรรมในลักษณะ On-site ได้มานานกว่า 2 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจ และสนับสนุนให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดอบรมสัมมนา และนิทรรศการมีความเข้มแข็ง มีความพร้อมในการรองรับการจัดงานระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคต สอดคล้องกับการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงาน MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ในระดับสากล

ทั้งนี้คาดว่าจะมีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีประมาณ 7,750 ราย โดยรัฐจะสูญเสียรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคล เพียง 455 ล้านบาท แต่สามารถช่วยภาคเอกชนลดค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเงินได้ถึง 2,275 ล้านบาท

แนวทางการสื่อสาร

– คลี่ให้เห็นห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดนิทรรศการและอบรมสัมมนาว่าเกี่ยวข้องกับใคร เช่น พื้นที่จัดกิจกรรม / บริษัทออแกไนซ์ / ลูกจ้างแรงงานรายวัน / ชุมชนที่ผลิตสินค้า / ต้นทางของวัตถุดิบที่นำมาใช้

– ขยายผลกิจกรรมอีเวนต์ นิทรรศการ หรืองานอบรมสัมมนาในพื้นที่จังหวัดของตนเอง โดยให้เห็นความเชื่อมโยงกับนโยบายในภาพใหญ่

– นำเสนอศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมในการจัดงานอบรมสัมมนา หรือ นิทรรศการในระดับโลก การมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มนี้ทำให้ผู้ประกอบการเดินต่อได้ และมีความพร้อมรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

เครดิตจาก…….สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร

 308 total views,  4 views today

Facebook Comments