ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุญาตให้ประกัน “ลุงพล” พราก”น้องชมพู่”จนเสียชีวิต ตีราคาประกัน 1.8 แสนบาท พร้อมกำชับห้ามไปข่มขู่-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และตั้งผู้ใหญ่บ้านกกตูม เป็นผู้กำกับดูแลที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร
วันนี้ที่ 4 มิถุนายน 2564
ความคืบหน้าคดี”น้องชมพู่เสียชีวิต” พ.ต.ท.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ พนักงานสอบสวนสภ.กกตูม ได้ควบคุมตัว นายไชยพล หรือพลวิภาอายุ 44 ปี หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาหมายจับที่ จ.53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2564 ของศาลจังหวัดมุกดาหาร ในความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร,ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
”โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 ช่วงเวลา 09.00-09.45 น.ผู้ต้องหาได้พาตัวเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ปี 2เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดาและนายอนามัย วงศ์ศรีชา บิดาไปในขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ. มุกดาหาร ของตนเอง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเลขที่ 77 หมู่ 2 ต.กกตูม อ. ดงหลวง จ. มุกดาหาร โดยปราศจากเหตุอันสมควรจากนั้นได้นำตัว ด.ญ.อรวรรณ หรือ น้องชมพู่ไปซุกซ่อน และทอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านอยู่ทางทิศเหนือของ หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวงจ.มุกดาหาร
ทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังโดยปราศจากผู้ดูแลแล้วไปทำธุระรับส่งพระหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามหาตัว ด.ญ.อรวรรณ หรือน้องชมพู่ แต่ไม่พบตัวภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระจึงย้อนกลับมานำตัวเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ซึ่งยังไม่เสียชีวิตและพยายามเดินหาทางกลับบ้านขึ้นไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้งให้พ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ ด.ญ.อรวรรณซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3 ปี 2 เดือน ไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟที่ถูกปล่อยทอดทิ้งไว้ได้จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ
ในเวลาต่อมาจากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของด.ญ.อรวรรณ หรือน้องชมพู่ และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพโดยถอดเสื้อผ้าจัดท่าทางของศพเพื่อให้เข้าใจว่ามีการประทุษร้ายทางเพศน้องชมพู่ และใช้ของแข็งมีคมตัดสับฟันไปที่เส้นผมของ ด.ญ.อรวรรณ หรือน้องชมพู่ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางไสยศาสตร์อันเป็นการกระทำการแก่ศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
ซึ่งจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปโดยได้พบศพเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ นอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ ชั้นที่ 5 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ไปประมาณ 1.3 กิโลเมตร ในวันที่ 14 พ.ค.2563 เวลาประมาณ 19.00 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ลงวันที่ 1 มิ.ย.2564 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306 มาตรา 308 และมาตรา 317และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ทวิ มีอายุความดำเนินคดี 15 ปี
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนสภ.กกตูม ได้รับตัวนายไชยพล หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564 เวลา 16.33 น. ได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดจะครบ 48 ชั่วโมง ในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา16.33 น. แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติม อีก 15 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12วัน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่น
จึงขอคัดค้านการประกันตัวพนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอดำเนินการยื่นคำร้องฝากขังโดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อ ๆไปทุกครั้งมีรายงานว่าคดีนี้มีผู้คัดการปล่อยชั่วคราวโดยศาลไต่สวนผู้เสียหาย 3 ปาก ที่คัดค้านการประกัน เเละนัดฟังคำสั่งประกันวันนี้ 15.00 น. ต่อมาศาลพิเคราะห์คำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน คำร้องขอปล่อยชั่วคราว คำคัดค้านของพนักงานสอบสวน คำร้องขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้เสียหายและพยานหลักฐานของผู้คัดค้านแล้ว
เห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน ผิดสัญญาปรับ 180,000 บาท เงินสดหลักประกัน ทำสัญญาประกัน ให้ตรวจคืนหลักประกันเมื่อสัญญาประกันสิ้นสุด และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และแต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านกกตูม ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เป็นผู้กำกับดูแลผู้ต้องหาเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด หากผู้ต้องหาผิดข้อกำหนดเงื่อนไขศาล จะพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวหรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร.
เครดิตจาก…………….ทีมข่าวมุกดาหารนิวส์…….
เล่าข่าวชาวมุกดาหาร รายงาน……..
8,096 total views, 2 views today
Facebook Comments